ในบุหรี่ ๑ มวนประกอบด้วย ใบยาสูบ กระดาษที่ใช้มวน และสารเคมีหลายร้อยชนิด ที่ใช้ในการปรุงแต่งกลิ่นและรสเพื่อลดการระคายเคืองและเพื่อให้บุหรี่น่าสูบ เมื่อเกิดการเผาไหม้จะทำให้เกิดสารเคมีมากกว่า ๔,๐๐๐ ชนิด ซึ่งสารหลายร้อยชนิดมีผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายและมีสาร ๔๓ ชนิดที่เป็นสารก่อมะเร็ง
ควันบุหรี่ประกอบด้วยสารที่เกิดจากการเผาไหม้สารเคมีที่มีอยู่ในใบยาสูบตามธรรมชาติ สารเคมีที่ใช้ผสมเพื่อปรุงแต่งกลิ่นและรสในกระบวนการผลิตบุหรี่ และกระดาษที่ใช้มวนบุหรี่ ควันบุหรี่แบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ ควันที่สูดเข้าร่างกายกับควันที่ลอยอยู่ในอากาศ ในช่วงเวลาที่ไม่มีการสูดควันควันที่สูดเข้าสู่ร่างกายมีความเข้มข้นมากประกอบด้วยส่วนที่เป็นละอองสารเคมีขนาดของละอองจะแตกต่างกันระหว่าง ๐.๑ และ ๑.๐ ไมโครเมตรและส่วนที่เป็นก๊าซ คือ ไนโตรเจน (ร้อยละ ๕๐ - ๗๐) ออกซิเจน (ร้อยละ ๑๐ - ๑๕) คาร์บอนไดออกไซด์ (ร้อยละ ๑๐ - ๑๕) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (ร้อยละ ๓ - ๖) ซึ่งเมื่อมีการเผาไหม้จะก่อให้เกิดสารต่าง ๆ อีก กว่า ๔,๐๐๐ ชนิด ดังแสดงในตารางที่ ๑
ตารางสารที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้บุหรี่
สารที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้บุหรี่
|
จำนวนของสาร/ชนิด
|
อะไมด์ (Amides) ไอไมด์ (Imides) |
๒๓๗
|
กรดคาร์โบไซลิก (Carboxylic acids) |
๒๒๗
|
แลกโทน (Lactones) |
๑๕๐
|
เอสเตอร์ (Esters) |
๔๗๔
|
แอลดีไฮด์ (Aldehydes) |
๑๐๘
|
คีโทน (Ketones) |
๕๒๑
|
แอลกอฮอล์ (Alcohols) |
๓๗๙
|
ฟีนอล (Phenols) |
๒๘๒
|
อะไมน์ (Amines) |
๑๙๖
|
เอ็น-เฮเทอโรไซคลิก (N-Heterocyclics) |
๙๒๑
|
ไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbons) |
๗๕๕
|
ไนไทรส์ (Nitriles) |
๑๐๖
|
แอนไฮไดรส์ (Anhydrides) |
๑๑
|
คาร์โบไฮไดรด์ (Carbohydrides) |
๔๒
|
อีเทอร์ (Ethers) |
๓๑๑
|
รวม
|
๔,๗๒๐
|
ที่มา : Dube and Green, U.S. Department of Health Human Services. Cardiovascular Disease : A Report of the Surgeon General, 1983, P. 206.
ความร้อนของปลายมวนบุหรี่ขณะที่สูดควัน คือ ๙๐๐ องศาเซลเซียส และ ๖๐๐ องศาเซลเซียส ขณะที่ไม่มีการสูดควันซึ่งความร้อนระดับนี้เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสารพิษต่าง ๆ มากมายจากการเผาไหม้ทั้งในควันที่สูดเข้าไปและควันที่ลอยอยู่ในอากาศ เนื่องจากควันที่ลอยอยู่ในอากาศจะเจือจางในอากาศและจากความร้อนรอบนอกที่ต่ำกว่าทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็วละอองสารของควันจึงมีขนาดเล็กกว่าและระหว่างที่ควันลอยอยู่ในอากาศจะมีออกซิเจนมากกว่าจึงทำให้สารบางชนิดเกิดปฏิกิริยากลายเป็นสารชนิดที่มีพิษมากขึ้นได้ เช่น ไนโตรเจนออกไซด์และเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนมากขึ้นก็จะจับตัวกับออกซิเจนกลายเป็นไนโตรเจนไดออกไซด์ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายมากขึ้น
ในควันบุหรี่ มีสารพิษดังนี้
นิโคตินเป็นสารพิษอย่างแรงสามารถดูดซึมเข้าทางผิวหนังและเยื่อบุร่างกายได้และเป็นสารที่มีฤทธิ์เสพติด สารนี้ในระยะแรกออกฤทธิ์กระตุ้นสมองและระบบประสาทส่วนกลางทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจและชีพจรเต้นเร็วขึ้นโดยอาจจะเพิ่มขึ้นถึง ๓๐ ครั้งต่อนาที ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักกว่าปกติและกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ แต่ในระยะต่อมาจะมีฤทธิ์กดระบบประสาท นิโคติน และสารเคมีอื่น ๆ ที่ทำให้ไขมันชนิดไม่ดีในเลือดสูงขึ้นทำให้หลอดโลหิตตีบลงซึ่งทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและความดันโลหิตสูงขึ้นได้
ประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นสารก่อมะเร็งโดยร้อยละ ๕๐ ของสารทาร์จะจับอยู่ที่ปอดเมื่อผู้สูบบุหรี่หายใจสูดอากาศที่มีฝุ่นละอองต่าง ๆ ปนอยู่เข้าไป สารทาร์ที่ปอดก็จะรวมตัวกับฝุ่นละอองที่สูดเข้าไปนั้นแล้วจับตัวสะสมอยู่ในถุงลมปอดทำให้เกิดการระคายเคืองอันเป็นสาเหตุของการไอและมีเสมหะและก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดและโรคถุงลมโป่งพองในระยะยาว
ทำให้เกิดโรคผนังเส้นเลือดแดงรองหนาและแข็งขึ้น
เป็นก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ชนิดเดียวกับที่พ่นออกมาจากท่อไอเสียรถยนต์ ก๊าซนี้จะขัดขวางการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงทำให้ผู้สูบบุหรี่ได้รับออกซิเจนน้อยลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๑๐ - ๑๕ สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่จัด ร่างกายต้องสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นทำให้เลือดข้นและหนืดมากขึ้นหัวใจต้องเต้นเร็วขึ้นและทำงานมากขึ้นเพื่อให้เลือดนำออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้เพียงพอ ถ้าก๊าซนี้มีจำนวนมากจะทำให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจน
ก่อให้เกิดอาการไอ มีเสมหะและหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ และคลื่นไส้อาเจียน เป็นก๊าซพิษที่ใช้ในสงคราม สารไนเทรตในบุหรี่ทำให้เกิดสารนี้ สารนี้เป็นตัวสกัดกั้นเอนไซม์ที่เกี่ยวกับการหายใจหลายตัวทำให้เกิดความผิดปกติของการเผาผลาญพลังงานที่กล้ามเนื้อหัวใจและที่ผนังหลอดเลือด
เป็นสาเหตุของโรคถุงลมปอดโป่งพองโดยจะไปทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลม
ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ใจสั่น
ใช้ในการปรุงแต่งรสชาติและช่วยให้นิโคตินดูดซึมเข้าสู่สมองและประสาทส่วนกลางเร็วขึ้นมีฤทธิ์ระคายเคืองเนื้อเยื่อทำให้แสบตา แสบจมูก หลอดลมอักเสบ
สารนี้ถ้าได้รับในปริมาณมากจะทำให้หัวใจเป็นอัมพาตและหยุดหายใจได้ ปกติใช้เป็นยาเบื่อหนู
พบในยาฆ่าแมลงอาจติดมากับใบยาสู เป็นสารก่อมะเร็ง
ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อดวงตา เยื่อบุจมูก และทางเดินหายใจ เป็นสารก่อมะเร็งอย่างสูง
เป็นสารที่ทำให้ตา โพรงจมูก คอ และปอดเกิดความระคายเคืองและเป็นสาเหตุของอาการทางระบบประสาทหลายอย่าง เช่น ทำให้สายตาพร่ามัว เมื่อยล้าร่างกาย และปวดศีรษะ หรือเวียนศีรษะ เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจและเป็นสารก่อมะเร็ง
ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ไอ ถุงลมปอดบวม และเป็นเนื้อตาย
เป็นสารพิษที่ร้ายแรงต่อมนุษย์มีผลทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อปอดทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนระคายเคืองและบวมผู้สูบจะรู้สึกหายใจแน่นหน้าอกหายใจไม่โล่ง นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อดวงตาอีกด้วย
ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางอย่างอ่อน ปลายมือปลายเท้าซีดเขียว เม็ดเลือดขาวลดลง ระคายเคืองต่อไต เยื่อบุตาขาวมีสีเหลืองเล็กน้อย และหายใจไม่สม่ำเสมอได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการแสดงต่อไปนี้ คือ เยื่อบุตา จมูก และปอดระคายเคือง ปวดศีรษะ มึนเวียนศีรษะ คลื่นไส้ รู้สึกไม่ค่อยสบาย และหงุดหงิด อาจก่อให้เกิดมะเร็ง
เป็นสารที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ง่วง เซื่องซึม ปลายมือปลายเท้าเขียวคล้ำ ปัสสาวะปวดแสบปวดร้อนและอาจมีเลือดปน เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
ก่อให้เกิดมะเร็งปอด มะเร็งเยื่อหุ้มปอดและเยื่อบุหน้าท้อง
เป็นสารก่อมะเร็งอย่างแรง
ก่อให้เกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ก่อให้เกิดมะเร็งปอด
มีผลต่อการหายใจและมีการศึกษาในสัตว์ทดลองว่าก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเซลล์ของระบบสืบพันธุ์
การเข้าสู่ร่างกายโดยการสูดดมก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าการรับประทาน การได้รับสารเป็นระยะเวลานานแม้ว่าจะเป็นจำนวนเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำอันตรายต่อไต ตับ และสมอง และเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดและอัณฑะ
เป็นสารโลหะที่ทำลายสมอง ไต ระบบประสาท และเม็ดเลือดแดงอย่างรุนแรง สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้โดยเฉพาะในเด็กจะดูดซึมได้ดีทำให้ไปยับยั้งการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง ความเฉลียวฉลาดจะช้ากว่าเด็กปกติการรับรู้สั้น
ทั้งหมดนี้เป็นสารก่อมะเร็ง
เป็นสารโลหะที่เป็นพิษต่อสมองทำให้เกิดอาการสั่น ความจำเสื่อม และโรคไต
ทำให้ตา จมูก และคอระคายเคือง และกดระบบประสาทส่วนกลาง
ทำให้ระบบทางเดินหายใจติดเชื้อง่ายขึ้น
มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจถ้าได้รับในปริมาณมากจะทำให้ปอดหยุดทำงาน สารนี้มีผลทำให้เกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง และหอบหืด ในเด็กอายุต่ำกว่า ๒ ปี
ทำให้ตาระคายเคืองไปจนถึงเกิดการจับตัวกับเยื่อบุตาขาวและตาขาว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความหนาและความโค้งของตาขาวทำให้สายตาพร่ามัว
เป็นสารที่ทำให้ผิวหนัง ดวงตา และเยื่อบุต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ระคายเคืองอย่างแรง
เป็นสารกัมมันตรังสีก่อให้เกิดมะเร็ง
ทำให้ระคายเคืองต่อดวงตา จมูก และคอ และอาจทำให้ปวดศีรษะ มึนงง เวียนศีรษะ และคลื่นไส้ นอกจากนี้ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
ไฮโดรเจนเซเลเนียมที่ได้รับจากการสูดเข้าสู่ร่างกายมีพิษมากที่สุดในสารตระกูลเซเลเนียม ทำอันตรายต่อทางเดินหายใจ ทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจระคายเคือง เยื่อบุปอดบวม หลอดลมอักเสบ และปอดบวม
มีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย และซึมเศร้า นอกจากนี้ยังมีผลต่อระบบประสาทส่วนปลายและต่อการทำหน้าที่ของเอนไซม์ที่เกี่ยวกับไตและโลหิตอีกด้วย
สารนี้เมื่อได้รับในปริมาณมากจะกดระบบประสาทส่วนกลางทำให้เกิดอาการเดินไม่มั่นคง มือสั่น สมองเหี่ยว พูดไม่ชัด หูอื้อ ตาพร่า ถ้าสูดเข้าร่างกายในระยะเวลานานจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อดวงตา ทางเดินหายใจ เจ็บคอ คลื่นไส้ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ และนอนไม่หลับ